หนวย1

หนวย2

     ดร.พีรพันธุ์ พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานเปิดงาน  วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สร้างรายได้และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน โดยมี รศ.ดร.วีรพงษ์ แพสุวรรณ ปลัดกระทรวง คณะผู้บริหารของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ มาร่วมงาน ณ บริเวณชั้น 1 อาคารรัฐสภา

    งานนิทรรศการวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสร้างรายได้ และเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน เป็นการจัดงานเพื่อต้องการให้สังคมไทยรับรู้ถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม และเห็นว่าเป็นเรื่องใกล้ตัว สามารถจับต้องได้ สัมผัสได้ และนำมาใช้ประโยชน์ได้จริงในการดำรงชีวิตประจำวัน เป็นโจทย์ที่ท้าทายและจำเป็นอย่างยิ่ง องค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์หลากหลายสาขาถูกนำมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการต่างๆเพื่อส่งเสริมให้เกิดการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อาทิ การจัดการวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ การผลิต และการขนส่งซึ่งสามารถเพิ่มผลผลิต ลดขั้นตอนและลดต้นทุนการผลิตได้ รวมถึงการนำผลิตภัณฑ์จากนวัตกรรมใหม่ๆออกสู่ตลาดเพื่อสร้างความแตกต่างและชิงความเป็นผู้นำ ตัวอย่างเช่น การยกระดับ SMEs ไทย ในการสร้างและทดสอบเครื่องจักรอัตโนมัติเพื่ออุตสาหกรรมผลิตฮาร์ดดิสไดรฟ์ , การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ,การยกระดับความสามารถผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยเพื่อรักษาฐานการผลิตรถยนต์ ,การยกระดับอุตสาหกรรมไทยเพื่อรองรับการผลิตชิ้นส่วนรถไฟและระบบราง ,การเพิ่มมูลค่าสิ่งทอโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง การผลิตปุ๋ยอินทรีย์เคมีนาโน  หรือการสร้างและให้บริการห้องปฏิบัติการเพื่อควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าและอาหารแปรรูปไทยเพื่อการส่งออกในระดับสากล เป็นต้น

          ดร.พีรพันธุ์ฯ รมว.วท. กล่าวว่า การนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์มิจำกัดเฉพาะเพื่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการพัฒนาภาคชุมชนชนบทให้เติบโตอย่างยั่งยืนเพื่อเป็นรากฐานที่มั่นคงให้ประเทศ องค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ยังถูกนำมาประยุกต์ใช้เพื่อส่งเสริมให้คนในชุมชนมีอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว มีสุขอนามัยที่ดี มีความมั่นคงปลอดภัยในการดำเนินชีวิต รู้จักใช้ประโยชน์จากทรัพยากรในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน นอกจากนี้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยียังเป็นเครื่องมือช่วยให้ชุมชนชนบทเข้าถึงองค์ความรู้และข่าวสาร รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก มีกระบวนการคิดบนหลักของเหตุและผล และสร้างกระบวนการเรียนรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตอย่างเหมาะสม ซึ่งการผลักดันประเทศไทยให้เข้มแข็งได้ ต้องมีความพร้อมในโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ , มีการสร้างความรู้อย่างเพียงพอ มีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความสามารถในการแข่งขัน และทำให้ประชากรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ไปสู่สังคมวิทยาศาสตร์ สังคมที่เห็นความสำคัญและรู้จักนำวิทยาศาสตร์มาใช้ประโยชน์ต้องทำตั้งแต่ระดับนโยบายจนถึงระดับปฏิบัติการ อาศัยการทำงานที่สอดประสานและขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน

         ดร.พีรพันธุ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน รัฐบาลภายใต้การนำของ ฯพณ นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ประกาศชัดเจนในการใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนประเทศไทยตามยุทธศาสตร์ประเทศหรือ Thailand Country Strategy โดยในประเด็นวิจัยพัฒนา ได้มอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เป็นผู้รับผิดชอบหลักโดยตั้งเป้าหมายในการเพิ่มการลงทุนด้านวิจัยพัฒนาให้เป็นร้อยละ 1 ของ GDP   การส่งเสริมบุคลากรด้านS&T ภาครัฐไปปฏิบัติงานในภาคอุตสาหกรรม และการใช้ประโยชน์จากกำลังคนด้านS&T ตลอดจนการใช้ประโยชน์จากอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคเพื่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจที่ได้ผลอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรมในวงกว้าง   ทั้งในแง่ของการเพิ่มและสร้างรายได้ให้แก่ภาคเกษตรกรรมที่เป็นสัดส่วนโครงสร้างหลักของประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีขอให้เร่งรัดให้เกิดนโยบายและการนำไปปฏิบัติให้เห็นเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ทั้งนี้ การนำผลงานส่วนหนึ่งของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ มาจัดแสดงในครั้งนี้ เพื่อให้เกิดการขยายผลและสนับสนุนให้เกิดการนำไปใช้ต่อยอด รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ตลอดจนการผสมผสานความเข้าใจ และร่วมกันขับเคลื่อนพัฒนางานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศโดยผู้แทนของภาคประชาชนและนักวิจัย เพื่อร่วมคิด ร่วมมือกันพัฒนาประเทศไทยให้เข้มแข็งในเวทีโลก อันจะนำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนไทยทั้งประเทศต่อไป

 หนวย3

หนวย4

หนวย5

หนวย6

ข่าว : www.most.go.th