11251373 867766446604034 6805783861666530229 n

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (ศน.) และ สถาบันวิจัยแสงซินโคร ตรอน (องค์การมหาชน) (สซ.) ลงนามขยายเวลาการดำเนินการสถานร่วมวิจัยเพื่อการใช้แสงซินโครตรอนต่ออีก 5 ปี หลังประสบความสำเร็จในสร้างระบบลำเลียงแสง เพื่อการใช้แสงซินโครตรอนในเทคนิคการดูดกลืนรังสีเอกซ์ ซึ่งเป็นเทคนิควิเคราะห์วัสดุขั้นสูง สามารถวิเคราะห์ สถานะทางเคมีและโครงสร้างอะตอมโดยรอบของธาตุที่สนใจได้หลากหลายชนิด มุ่งหวังพัฒนาศักยภาพของนักวิจัยในการสร้างสรรค์ผลงาน ให้มีคุณภาพในระดับสากล และมุ่งเน้นงานวิจัยที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

Host by www.slri.or.thHost by www.slri.or.thHost by www.slri.or.thHost by www.slri.or.th

 

ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า “ตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยา ศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา และนวัตกรรมนั้น สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) ซึ่งมีห้องปฏิบัติการกลางทางวิทยาศาสตร์ให้บริการแสงซินโครตรอนที่ใหญ่ที่ สุดในภูมิภาคอาเซียน เป็นหนึ่งในสถาบันฯ ที่ปฏิบัติงานสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานและบริการ ด้าน วทน. ในโอกาสนี้ที่มีความร่วมมือจากหน่วยงานของภาครัฐทั้ง 3 ฝ่าย มทส. – นาโนเทค - ซินโครตรอน นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการร่วมสร้างเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ เพื่อนำไปสู่การบริการด้าน วทน. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นการกระตุ้นให้ภาคเอกชนเห็นความสำคัญของแสงซินโค รตรอน และเข้ามาร่วมสร้างและใช้ประโยชน์จากแสงซินโครตรอน ซึ่งจะเป็นจุดหนึ่งในการเชื่อมต่อการใช้โครงสร้างพื้นฐานทาง วทน. ให้เกิดผลในการพัฒนาเศรษฐกิจและวิชาการ

Host by www.slri.or.thHost by www.slri.or.thHost by www.slri.or.thHost by www.slri.or.th


ศาสตราจารย์ ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ในฐานะประธานคณะกรรมบริหารสถานร่วมวิจัย มทส.-นาโนเทค-สซ. เปิดเผยว่า “จากการที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (ศน.) และ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) (สซ.) ได้ร่วมทุนจัดตั้งสถานร่วมวิจัยแบบไตรภาคี เพื่อการใช้แสงซินโครตรอน เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2552 โดยเป็นการร่วมลงทุนฝ่ายละ 15 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 45 ล้านบาท โดยระยะที่ 1 ใช้เวลา 3 ปี โดยมี ศ.ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ เป็นหัวหน้าสถานร่วมวิจัย ได้ดำเนินการสร้างระบบลำเลียงแสงและสถานีทดลองเทคนิคการดูดกลืนรังสีเอกซ์ (X-ray Absorption Spectroscopy) กระทั่งแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2555 ถึงปัจจุบันสถานีทดลองแห่งนี้ สามารถให้บริการแสงได้ถึง 8,206 ชั่วโมง แบ่งให้กับผู้ใช้ 218 คน จาก 144 โครงการวิจัย ทำให้เกิดผลงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติแล้วกว่า 20 เรื่อง และมีการยื่นขอจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา 1 เรื่อง แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของผลงานวิจัยที่ก้าวขึ้นสู่ระดับสากลเป็นที่ยอมรับของ นานาชาติ นอกจากนี้ การดำเนินการสถานร่วมวิจัยฯ ยังสามารถพัฒนานักวิจัยรุ่นใหม่ให้มีศักยภาพในการทำวิจัยโดยใช้เทคนิคด้าน แสง ซินโครตรอนในการวิจัยขั้นสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานวิจัยทางด้านนาโนเทคโนโลยี ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีความสำคัญและได้รับความสนใจอย่างมากในปัจจุบัน จากผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานข้างต้น ทั้งสามหน่วยงานจึงมีความเห็นพ้องกันที่จะขยายระยะเวลาการดำเนินงานไปสู่ ระยะที่สอง เพื่อต่อยอดและขยายผลความร่วมมือระหว่างไตรภาคีในการใช้งานโครงสร้างพื้นฐาน ที่สร้างขึ้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยจะระดมเงินทุนเพิ่ม ฝ่ายละ 1 ล้านบาทต่อปี เป็นระยะเวลา 5 ปี รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 15 ล้านบาท เพื่อใช้ในการดำเนินการของสถานร่วมวิจัยในระยะที่สอง”


ศาสตราจารย์ นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (ศน.) กล่าวเสริมว่า “ปัจจุบัน ศาสตร์ด้านนาโนเทคโนโลยีกำลังเป็นที่สนใจอย่างมากในทุกวงการ ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีนาโนได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการวิจัยในระดับสากล เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตในแทบทุกด้าน การที่นักวิจัยไทยได้เข้าถึงห้องปฏิบัติการวิจัยวัสดุขั้นสูง เช่นการมีสถานีทดลองเทคนิคการดูดกลืนรังสีเอกซ์ ซึ่งเป็นเทคนิคที่สามารถวิเคราะห์สถานะทางเคมีและโครงสร้างอะตอมโดยรอบของ ธาตุที่สนใจได้หลายชนิด ทั้งยังสามารถวิเคราะห์สารตัวอย่างได้ทั้งในสภาวะของแข็ง ของเหลว และก๊าซ โดยไม่ทำลายสารตัวอย่าง ซึ่งได้มีการนำไปประยุกต์ใช้ในงานวิจัยหลากหลายด้าน อาทิเช่น วัสดุศาสตร์ วัสดุนาโน ชีววิทยา สิ่งแวดล้อม พลังงาน และโบราณคดี เป็นต้น การมีเครื่องมือชั้นแนวหน้านี้จึงเป็นเสมือนตัวขับเร่งให้นักวิจัยรุ่นใหม่ ได้สร้างสรรค์ผลงานวิจัยออกสู่สังคมมากยิ่งขึ้น จะเห็นได้จากผลงานที่ผ่านมานักวิจัยไทยมีความสามารถเป็นที่ประจักษ์และเป็น ที่ยอมรับในระดับนาชาติ การผลิตผลงานวิจัยต่อจากนี้จะให้ความสำคัญมุ่งไปที่การวิจัยและพัฒนาสู่ภาค อุตสาหกรรมให้มากยิ่งขึ้น”

Host by www.slri.or.th


ศาสตราจารย์ นาวาอากาศโท ดร.สราวุฒิ สุจิตจร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (สซ.) กล่าวทิ้งท้ายว่า “จากผลสำเร็จในการสร้างระบบลำเลียงแสงและสถานีทดลอง มทส.-นาโนเทค-มทส. ภายในห้องปฏิบัติการแสงสยามนั้น สิ่งที่น่าภาคภูมิใจร่วมกันก็คือ ระบบลำเสียงแสงนี้ได้ถูกออกแบบและจัดสร้างโดยทีมนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรไทย ทั้งสิ้น ซึ่งในตลอดระยะเวลา 3 ปีของการดำเนินการจัดสร้างได้ก่อให้เกิดการเรียนรู้ การพัฒนาศักยภาพของทีมงานบุคลากรได้เป็นอย่างมาก อีกทั้ง สถาบันฯ ยังได้จัดทีมนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร ในการให้คำปรึกษาแก่ผู้เข้าใช้บริการแสง การบำรุงรักษาอุปกรณ์เครื่องมือเพื่อรองรับการใช้งานอยู่เสมอ เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สถาบันอุดมศึกษา และ องค์กรวิจัยชั้นนำของประเทศได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทาง วิทยาศาสตร์ด้วยแสงซินโครตรอนผ่านการพัฒนาสถานร่วมวิจัยนี้ ก่อให้เกิดมิติใหม่ในด้านการร่วมใช้งบประมาณ การร่วมสร้างสรรค์ผลงานวิจัย และในระยะที่ 2 จะมีการพัฒนาระบบ X-ray Photoemission Spectroscopy เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งระบบสำหรับการวิเคราะห์พื้นผิวของวัสดุ เพื่อสนับสนุนงานวิจัยทางด้านนาโนเทคโนโลยี โดยมุ่งหวังที่จะเพิ่มจำนวนนักวิจัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากในกลุ่มประเทศอา เซียน และเพิ่มจำนวนโครงการวิจัยจากภาคอุตสาหกรรมที่เป็นพันธมิตรร่วมของหน่วยงาน ไตรภาคี เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนงานวิจัยที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ และสามารถขยายขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ”

 

Host by www.slri.or.th
Host by www.slri.or.thHost by www.slri.or.th
Host by www.slri.or.thHost by www.slri.or.th
Host by www.slri.or.thHost by www.slri.or.th
Host by www.slri.or.thHost by www.slri.or.th
Host by www.slri.or.thHost by www.slri.or.th
Host by www.slri.or.thHost by www.slri.or.th
Host by www.slri.or.thHost by www.slri.or.th
Host by www.slri.or.thHost by www.slri.or.th