มะไฟจน

 

นักวิทยาศาสตร์สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับนักวิจัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ไขประสิทธิภาพสารสกัดจากเมล็ดมะไฟจีน ผลิตภัณฑ์พลอยได้จากวิสาหกิจชุมชน จ.น่าน พบช่วยสร้างสมดุลของจุลินทรีย์บนผิวหนัง และลดการอักเสบของผิวหนังได้ ต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์เจลอาบน้ำและเจลล้างหน้าสูตรสกิน โซลูชั่น ซีรีส์ของ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมคว้ารางวัลสิ่งประดิษฐ์นานาชาติเจนีวาปีล่าสุด

ดร.กาญจนา ธรรมนู หัวหน้าส่วนวิจัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน กล่าวว่า “ทีมวิจัยของสถาบันฯ ร่วมกับ ศ.ภก.ดร.เกรียงศักดิ์ เอื้อมเก็บ นักวิจัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ได้รับโจทย์จากบริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) ในการทดสอบสารสกัดจากมะไฟจีนและพอลิแซ็กคาไรด์ (คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน) กับเชื้อแบคทีเรีย 3 ชนิด คือ เอส อิพิเดอมิดิส (S. epidermidis) เอส ออเรียส (S. aureus) และพี แอคเน่ (P. acne) โดยใช้เทคนิคแสงซินโครตรอนในย่านอินฟราเรด ศึกษาการเปลี่ยนแปลงของสารชีวโมเลกุลของเชื้อสามชนิด ในสภาวะที่มีการเติมสารสกัดของเมล็ดมะไฟจีน และพอลิแซ็กคาไรด์”


“เมื่อเติมสารสกัดของเมล็ดมะไฟจีน และพอลิแซ็กคาไรด์ จนพบสภาวะสมดุลของจุลินทรีย์ที่ดีที่สุด พบว่าสารดังกล่าวทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสมดุลจุลินทรีย์ ที่สามารถช่วยลดการอักเสบของผิวหนังได้ จากผลการทดสอบดังกล่าวบริษัทไลอ้อนประเทศไทยจึงได้นำสารสกัดเมล็ดมะไฟจีน ไปใส่เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์เจลอาบน้ำและเจลล้างหน้าโชกุบุสซึ สกิน โซลูชั่น ซีรีส์ ซึ่งเป็นเจลอาบน้ำและเจลล้างหน้า 3 สูตรสำหรับผู้มีปัญหาผิว ได้แก่ สูตรสำหรับผู้มีปัญหาสิวหรือจุดด่างดำจากสิว สูตรสำหรับผู้มีปัญหาผิวแห้งกร้าน หมองคล้ำ และสูตรสำหรับผู้มีปัญหาผิวไม่กระชับเรียบเนียน ผลการศึกษานี้ยังเป็นปัจจัยให้ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับรางวัลเหรียญเงิน จากงานประกวดสิ่งประดิษฐ์นานาชาติเจนีวา ครั้งที่ 48 ณ สวิตเซอร์แลนด์ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา” ดร.กาญจนา ธรรมนู กล่าว


ด้าน นายชูชีพ อภิรักษ์ ผู้จัดการส่วนวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) กล่าวว่า “บริษัทมีโครงการพัฒนาชุมชนในพื้นที่จังหวัดน่าน โดยพบว่าวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปมะไฟจีนบ้านกอก มีผลิตภัณฑ์ของฝากที่แปรรูปจากมะไฟจีน เช่น มะไฟจีนอบแห้ง แยมมะไฟจีน เครื่องดื่มน้ำมะไฟจีน ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของชุมชน เนื่องจากพื้นที่จังหวัดอื่นไม่สามารถปลูกมะไฟจีนให้ติดผลได้ ผลจากการแปรรูปทำให้เกิดเมล็ดเหลือทิ้งจำนวนมาก จากทิศทางของบริษัทฯ ที่ท่านประธานให้ไว้ คือ “เราต้องช่วยกันสร้างวัฏจักรของการเจริญไปด้วยกันอย่างยั่งยืน” ทางบริษัทฯ จึงได้หาแนวทางพัฒนาของเหลือทิ้งทางการเกษตร เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนตามแนวทางโมเดล BCG”


“จากการศึกษาวิจัยวิธีการสกัดสารออกฤทธิ์เชิงหน้าที่จากเมล็ดมะไฟจีน ร่วมกับห้องปฏิบัติการกลุ่มวิจัยเกษตรแปรรูปและอาหารเชิงหน้าที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) พบว่า สารสกัดจากมะไฟจีนมีศักยภาพที่จะนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ โดยมีการทดสอบกับเชื้อจุลินทรีย์ในช่องปาก เช่น Streptococcus group A ดังนั้นบริษัทฯ จึงมีแนวคิดต่อยอดนำสารสกัดนั้นไปใช้ในเครื่องสำอางเชิงพาณิชย์ แต่เนื่องจากสารสกัดเมล็ดมะไฟจีนยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน อย. จึงต้องมีการศึกษาเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพก่อน ซึ่งด้านความปลอดภัยได้รับความร่วมมือจากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ทำให้ทางบริษัทฯ สามารถนำสารสกัดจากเมล็ดมะไฟจีนขึ้นทะเบียนแล้วที่สหรัฐฯ และเป็นครั้งแรกของโลกที่มีการขึ้นทะเบียนสารสกัดเมล็ดมะไฟจีน ซึ่งสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอนได้มีส่วนร่วมจากการศึกษาในส่วนของประสิทธิภาพของสารสกัดเมล็ดมะไฟจีนในการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์” นายชูชีพ อภิรักษ์ กล่าว