ลูกน้อยของคุณมี “เกราะปกป้องผิว (skin barrier)” ที่แข็งแรงแล้วหรือยัง?? เกราะปกป้องผิวอยู่ที่ผิวชั้นนอกสุด (Stratum corneum, SC) หรือที่เรียกกันว่าชั้นขี้ไคล เป็นเหมือนกำแพงที่สร้างจากเซลล์ผิวหนัง โดยมีเซลล์ผิวที่ตายแล้วเรียงตัวกันเหมือนอิฐและมีชั้นไขมัน (intercellular lipid bilayer) เป็นเหมือนปูนประสานเซลล์ผิวไม่ให้หลุดออกจากกัน ซึ่งหากชั้นปูนเหล่านี้เกิดช่องโหว่จะทำให้เซลล์ผิวหลุดออก จะทำให้เกิดการสูญเสียน้ำออกจากผิวหนัง และเหนี่ยวนำให้แบคทีเรียและสิ่งสกปรกต่างๆ เข้ามาทำร้ายผิว ทำให้ผิวแห้ง เกิดอาการคัน เป็นผด เป็นสิว และอื่นๆ อีกนานัปการ (รูปที่ 1) 

รูปที่ 1 เกราะปกป้องผิว (skin barrier)

เกราะปกป้องผิวนี้ถูกทำลายได้ง่ายไม่ว่าจะเป็น อายุที่สูงขึ้น ความเครียด มลภาวะ แสงแดด หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงกับผิวมากไป เพื่อให้ผิวมีสุขภาพที่ดี การรักษาเกราะปกป้องผิวให้ดีจึงเป็นกุญแจสำคัญ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในท้องตลาดส่วนใหญ่พัฒนาโดยใช้ส่วนผสมที่เหมือนกับไขมันที่อยู่ในผิวชั้นนอกสุด  แต่จะดีแค่ไหน หากสามารถทำให้ส่วนผสมที่ทาลงไปแทรกซึม พร้อมทั้งทำให้เกิดการจัดเรียงตัวของชั้นไขมันเสมือนในชั้นผิวที่แข็งแรงตามธรรมชาติ 

รูปที่ 2 โครงสร้าง Lamellar liquid crystal ของผลิตภัณฑ์ Mama Kara

บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ถึงการจัดเรียงในระดับชั้นไขมันในผิวด้วยนวัตกรรมออร์แกนิค ภายใต้แบรนด์ มามา คาระ “MAMA KARA” โดยนำสารสกัดออร์แกนิค โจโจบา ออยส์ผสานกับเทคโนโลยี Liquid Crystal (LC) ร่วมทำการทดสอบกับสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) ในการตรวจวิเคราะห์โครงสร้างและคุณภาพของโลชั่น และยืนยันถึงประสิทธิภาพความสามารถในการเสริมเกราะปกป้องผิวด้วยการวิเคราะห์ทางเทคโนโลยีขั้นสูงเทคนิคการกระเจิงรังสีเอกซ์ หรือ Small and Wide Angle X-ray Scattering (SWAXS) และ เทคนิคทางอินฟราเรด หรือ Fourier-transform Infrared (FTIR) Imaging พบว่า โครงสร้างของส่วนผสมในโลชั่นเป็นแบบ Lamellar liquid crystal (LLC) ที่มีการจัดเรียงตัวเป็นระเบียบเหมือนชั้นไขมันในผิวหนัง (รูปที่ 2) และมั่นใจได้ว่าเมื่ออุณหภมูิสูงถึง 50 องศาเซลเซียสหรือวางไว้ใต้แสงแดดโลชั่นจะยังไม่เสื่อมสภาพ ในแง่ประสิทธิภาพนั้น ได้ทดสอบในเซลล์ผิวหนังจำลองที่เอาไขมันออก (In vitro permeation testing) ยืนยันได้ว่า โลชั่นชนิดนี้สามารถซึมและกักเก็บในบริเวณผิวหนังชั้นนอกสุด และเกิดการจัดเรียงใหม่ของไขมันเป็นชั้นๆ ที่มีขนาดใกล้เคียงกับชั้นไขมันของผิวสุขภาพดี อีกทั้งยังสามารถกักเก็บน้ำในผิวหนังได้เป็นอย่างดี (รูปที่ 3) ดังนั้น กล่าวได้ว่า โลชั่นรูปแบบ LLC นี้สามารถไปทดแทนหรือเสริมกำลังของชั้นไขมันที่ทำหน้าที่เสมือนปูนกาวเชื่อมเซลล์ผิว เกิดเป็นเกราะปกป้องผิวหนังที่แข็งแรง ฟื้นฟูผิวที่แห้ง ล็อคความชุ่มชื้น ควบคุมและป้องกันสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ผิวหนัง ทำให้ลดอาการผดผื่นและการระคายเคืองที่เกิดจากมลภาวะและสารแปลกปลอม ดังนั้น มาเสริมเกราะปกป้องผิวให้ลูกน้อยเพื่อสร้างผิวที่แข็งแรงมั่นใจไร้กังวลกับมลภาวะด้วยผลิตภัณฑ์ “MAMA KARA”

รูปที่ 3 ผลประสิทธิภาพเสริมเกราะปกป้องผิว (In Vitro testing) ด้วย Synchrotron SAXS และ FTIR

 

การทดสอบครั้งนี้เป็นหนึ่งในผลงานที่ทางสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอนได้ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์กับภาคเอกชน ทั้งนี้ ด้วยศักยภาพของนักวิทยาศาสตร์และสถานีทดลองของสถาบันฯ เรามีความพร้อมที่จะร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ กับบริษัทเอกชน สนใจติดต่อ ส่วนพัฒนาธุรกิจ โทร. 08-9949-7313 และ e-mail: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

 

บทความโดย ดร.นันทพร กมลสุทธิไพจิตร และ ดร.วรวิกัลยา เกียรติ์พงษ์ลาภ

คณะผู้วิจัย วรวิกัลยา เกียรติ์พงษ์ลาภ (หัวหน้าโครงการ)/ นันทพร กมลสุทธิไพจิตร/ ศิริวัช สุนทรานนท์/ นันทิยา วงศ์แสงตา/ รักษณาลี กังวาลวัฒนศิริ และชูชีพ อภิรักษ์