Scanning Electron Microscope(SEM)
กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด
ประเภทเครื่องมือ : เครื่องมือวิเคราะห์ทดสอบ
ยี่ห้อ/รุ่น : FEI รุ่น QUANTA 450
ข้อมูลทางเทคนิค :
กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนที่มีกำลังขยาย 6 -1,000,000 เท่า ทำให้สามารถศึกษาโครงสร้างขนาดเล็กระดับนาโนเมตรถึงไมโครเมตร สามารถถ่ายภาพตัวอย่างได้หลากหลายโดยไม่มีความจำเป็นต้องเคลือบผิวด้วยสารตัวนำไฟฟ้าก่อนการถ่ายภาพ โดยเลือกระบบสุญญากาศในห้องใส่ตัวอย่างที่เหมาะสมสำหรับตัวอย่างแต่ละประเภท ได้แก่
โหมดการวัดเพิ่มเติม
ผู้ดูแลเครื่องมือ :
ที่ปรึกษา งานวิเคาะห์/วิจัย :
สถานที่ตั้ง :ห้องวิเคราะห์ AFM&SEM (โซนห้องปฏิบัติการส่วนวิจัยประยุกต์เพื่ออุตสาหกรรม ฝ่ายสถานีวิจัย ชั้น 3 อาคารสิริธรวิชโชทัย)
Atomic Force Microscope (AFM)
กล้องจุลทรรศน์แรงอะตอม
ประเภทเครื่องมือ : เครื่องมือวิเคราะห์ทดสอบ
ยี่ห้อ/รุ่น : Park systems รุ่น NX10
ข้อมูลทางเทคนิค :
กล้องจุลทรรศน์แรงอะตอม เป็นกล้องจุลทรรศน์ชนิดหัวอ่านส่องกราด (Scanning Probe Microscopes, SPMs) ชนิดหนึ่ง โดยอาศัยหลักการของอันตรกิริยาของแรงระหว่างอะตอม (atomic force) ระหว่างหัวเข็มวัดในระดับนาโนเมตรกับพื้นผิวของสาร และจะทำการประมวลผลออกมาในลักษณะของภาพพื้นผิวทั้งในแบบ 2 มิติ หรือ 3 มิติ ได้ โดยการสแกนในแนวนอนมีกำลังแยกแยะ (spatial resolution) 0.04 nm การสแกนในแนวดิ่งมีกำลังแยกแยะ 0.015 nm และสามารถศึกษาตัวอย่างได้หลากหลาย จึงสามารถศึกษาคุณสมบัติต่างๆ บนพื้นผิวของตัวอย่างได้ เช่น การศึกษาคุณสมบัติวัสดุเพียโซอิเล็กทริคและ ไดอิเล็กทริค ศึกษาคุณสมบัติแม่เหล็ก ศึกษาคุณสมบัติไฟฟ้า ศึกษาคุณสมบัติความร้อน วัดแรง วัดค่า Ra (roughness), Friction Force, Particle & Grain analysis, Pitch & height measurement เป็นต้น
ลักษณะของตัวอย่างที่สามารถวัดได้
โหมดการวัด
ผู้ดูแลเครื่องมือ :
ที่ปรึกษา งานวิเคาะห์/วิจัย :
สถานที่ตั้ง :ห้องวิเคราะห์ AFM & SEM (โซนห้องปฏิบัติการส่วนวิจัยประยุกต์เพื่ออุตสาหกรรม ฝ่ายสถานีวิจัย ชั้น 3 อาคารสิริธรวิชโชทัย)
Wavelength dispersive X-ray Fluorescence (WD-XRF)
เครื่องเอ็กซเรย์ฟลูออเรสเซนต์ แบบกระจายความยาวคลื่น
ประเภทเครื่องมือ : เครื่องมือวิเคราะห์ทดสอบ
ยี่ห้อ/รุ่น : Rigaku รุ่น ZSXPrimusII
ข้อมูลทางเทคนิค :
WDXRF เป็นเครื่องมือสำหรับวิเคราะห์ชนิดและปริมาณธาตุในสารตัวอย่างโดยใช้หลักการเอกซเรย์ฟลูออเรสเซนต์ มีลักษณะการทำงานเป็นแบบ Wavelength Dispersive สามารถหาปริมาณธาตุได้ตั้งแต่ เบริลเลียม (Be) จนถึง ยูเรเนียม (U) สามารถวิเคราะห์หาปริมาณธาตุที่มีมากในระดับความเข้มข้นสูงตั้งแต่ระดับ เปอร์เซ็นต์ (percent) จนถึงมีปริมาณน้อยมาก ระดับส่วนในล้านส่วน (ppm) เป็นเครื่องที่สามารถวิเคราะห์ตัวอย่างได้ทั้งของแข็งและของเหลว
ในกระบวนการวิเคราะห์สารด้วยเทคนิค เอกซเรย์ฟลูออเรสเซนต์แบบ Wavelength Dispersive นั้น เกิดจากลำรังสีเอกซ์ที่ได้จากเครื่อง X-ray generator จะถูกส่งไปยังสารตัวอย่างเพื่อให้เกิดอันตรกิริยากับธาตุต่างๆ ในสารตัวอย่างแล้วเกิดเอกซเรย์ฟลูออเรสเซนซ์ผ่านคอลลิเมเตอร์ (Collimator) เพื่อทำให้ลำรังสีเอกซ์เป็นลำขนานและไปในทิศทางที่ต้องการ ให้ไปกระทบกับ Analyzing crystal ซึ่งอยู่ในสเปกโทรมิเตอร์ที่ทำให้เป็นสุญญากาศ Analyzing crystal จะทำหน้าที่กระจายหรือแยกรังสีเอกซ์อกไปให้มีความยาวคลื่นต่าง ๆ กัน และรังสีเอกซ์ที่ความยาวคลื่นต่างๆ กัน จะถูกส่งไปที่ดีเทคเตอร์ (Detectors) เพื่อแปลงสัญญาณออกมาเป็นสเปกตรัม
X-ray Generator Unit ;
- Tube-Above 4 kW, 60kV, 150mA
- Rh Target Anode
- End Window 30 Micron
Detectors ; Scintillation counter (SC) ส⯑ำหรับวิเคราะห์ธาตุหนัก, Flow proportional counter (F-PC) สำหรับวิเคราะห์ธาตุเบา
Analyze Crystal ; LiF(200), LiF(220), GeH, PeTH, RX25, RX40, RX45, RX75
Sample Chamber ;
- มีระบบการเปลี่ยนตัวอย่างภายในเครื่องแบบอัตโนมัติ (Auto Sample Changer) สามารถวางถ้วยตัวอย่าง (Sample Changer) ได้ 48 ถ้วย
- รองรับตัวอย่าง ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 50 มิลลิเมตร และความหนาไม่เกิน 30 มิลลิเมตร
- มี Sample mask 3 ขนาด (เส้นผ่านศูนย์กลาง 10, 20 และ 30 มิลลิเมตร) สามารถเลือกให้เหมาะสมตามขนาดของตัวอย่างได้
- สามารถทำงานได้ทั้งระบบสุญญากาศ และก๊าซฮีเลี่ยม
- มีระบบการหมุนตัวอย่างขณะวัด
- มีระบบการวัดวัดการกระจายตัวของธาตุบนพื้นผิวตัวอย่าง (Micro Mapping) ที่ความละเอียดของการวัด 50 ไมโครเมตร
ผู้ดูแลเครื่องมือ :
ที่ปรึกษา งานวิเคาะห์/วิจัย :
สถานที่ตั้ง :ห้องวิเคราะห์ XRD & XRF (โซนห้องปฏิบัติการส่วนวิจัยประยุกต์เพื่ออุตสาหกรรม ฝ่ายสถานีวิจัย ชั้น 3 อาคารสิริธรวิชโชทัย)
X-Ray Diffractometer (XRD)
เครื่องวิเคราะห์การเลี้ยวเบนของรังสีเอ็กซ์.
ประเภทเครื่องมือ : เครื่องมือวิเคราะห์ทดสอบ
ยี่ห้อ/รุ่น : Rigaku รุ่น SmartLab
ข้อมูลทางเทคนิค :
เทคนิคเอกซเรย์ดิฟแฟรกชัน หรือ เทคนิควิเคราะห์การเลี้ยวเบนของรังสีเอ็กซ์(XRD)เป็นเทคนิคที่นำรังสีเอ็กซ์(X-ray)มาใช้วิเคราะห์และระบุชนิดสารประกอบ โครงสร้างผลึกของสารประกอบที่มีอยู่ในสารตัวอย่าง ทั้งในเชิงคุณภาพ (Qualitative)และเชิงปริมาณ (Quantitative)
เทคนิควิเคราะห์การเลี้ยวเบนของรังสีเอ็กซ์อาศัยหลักการของการยิงรังสีเอ็กซ์ไปกระทบที่ชิ้นงาน ทำให้เกิดการเลี้ยวเบน และสะท้อนออกมาที่มุมต่างๆกันโดยมีหัววัดสัญญาณ (Detector) เป็นตัวรับข้อมูล องค์ประกอบและโครงสร้างของสารจะมีองศาในการเลี้ยวเบนรังสีเอ็กซ์ ในมุมที่แตกต่างกันออกไปขึ้นกับองค์ประกอบ รูปร่าง และลักษณะผลึกซึ่งผลที่ได้จึงสามารถบ่งชี้ชนิดของสารประกอบที่มีอยู่ในสารตัวอย่างและสามารถนำมาใช้ใช้ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับโครงสร้างของผลึกของสารตัวอย่างนั้นๆได้นอกจากนั้นแล้วยังสามารถศึกษาและวิเคราะห์ ปริมาณความเป็นผลึก ขนาดของผลึก ความสมบูรณ์ของผลึก และความเค้นของสารประกอบในสารตัวอย่าง และเมื่อวิเคราะห์กับอุปกรณ์เสริม เช่น อุปกรณ์ให้ความเย็น-ร้อน ก็จะสามารถศึกษาการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผลึกในขณะที่สภาวะทดสอบเปลี่ยนไป
คุณลักษณะของเครื่อง
Max Power : 9 kW,
X-Ray generator : Cu anode, Kα1-1,544 A°
Detector : 0D, 1D, 2D
การประยุกต์ใช้งาน
1. Small angle x-ray scattering (SAXS) สำหรับการวิเคราะห์ Particle/Pore size distribution ของวัสดุระดับนาโนเมตร
2. วิเคราะห์เชิงคุณภาพ (Qualitative analysis) และเชิงปริมาณ (Quantitative analysis)
4. วิเคราะห์ตัวอย่างแบบฟิล์มบาง (X-ray reflectivity )ที่ใช้ในการวิเคราะห์หาค่า thickness, density, surface roughness และ interface roughness ด้วยโปรแกรมคำนวณ
5. วิเคราะห์แบบ Rietveld refinement
6. เปรียบเทียบข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ตัวอย่างเชิงคุณภาพกับฐานข้อมูลอ้างอิง
7. การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของสาร ตั้งแต่อุณหภูมิห้อง จนถึง 1500 องศาเซลเซียส
ผู้ดูแลเครื่องมือ :
ที่ปรึกษา งานวิเคาะห์/วิจัย :
สถานที่ตั้ง :ห้องวิเคราะห์ XRD & XRF (โซนห้องปฏิบัติการส่วนวิจัยประยุกต์เพื่ออุตสาหกรรม ฝ่ายสถานีวิจัย ชั้น 3 อาคารสิริธรวิชโชทัย)
UV-Vis spectrophotometer
เครื่องวัดค่าการดูดกลืนแสง
ประเภทเครื่องมือ : เครื่องมือวิเคราะห์ทดสอบ
ยี่ห้อ/รุ่น : PerkinElmer รุ่น LAMBDA 950
ข้อมูลทางเทคนิค :
ผู้ดูแลเครื่องมือ :
ที่ปรึกษา งานวิเคาะห์/วิจัย :
สถานที่ตั้ง :ห้องวิเคราะห์ LA-ICP-MS & UV-VIS (โซนห้องปฏิบัติการส่วนวิจัยประยุกต์เพื่ออุตสาหกรรม ฝ่ายสถานีวิจัย ชั้น 3 อาคารสิริธรวิชโชทัย)