ระบบลำเลียงและสถานีทดลองที่ 1.1W: Multiple X-ray Techniques

(a)

(b)

 (a) แบบเชิงวิศวกรรมของdiffractometer มองในทิศเข้าหาแสง (ซ้าย) และตั้งฉากกับแสง (ขวา) แสดงตำแหน่งของชุดหัววัด MYTHEN 6K พร้อม housing, 4-axis sample stage, รางเลื่อนของ support-x และ support-z, spinner สำหรับติดสารตัวอย่าง (b) แบบเชิงวิศวกรรมแสดงหลักการ align เพื่อให้การหมุนของชุดหัววัด MYTHEN 6K (สีเขียว), stage ของ main θ บน diffractometer (สีน้ำตาล), 4-axis sample stage (สีฟ้า) ร่วมศูนย์กัน (ซ้าย) และการตรวจสอบศูนย์กลางด้วย FARO portable coordinate measuring machines (CMMs) (ขวา)

หลังจากการติดตั้ง ทางระบบลำเลียงแสงได้ทำการทดสอบความถูกต้องของผลการทดลองโดยการวัดสารมาตรฐาน NIST LaB6 SRM 660a โดยผลการทดลองที่ได้สามารถนำไปเทียบเคียงกับรูปแบบการกระเจิงมาตรฐานได้ ซึ่งแสดงถึง geometry ของการวัด และการ collimate แสงที่ดีและดีกว่าค่าปกติที่วัดได้จากเครื่อง benchtop x-ray diffraction ประมาณ 2 เท่า และได้ประชาสัมพันธ์ผ่านส่วนบริการผู้ใช้เพื่อเชิญผู้ใช้เข้ามาร่วมทดสอบการใช้งานและมีโครงการเข้ามาร่วมทดสอบการใช้งานทั้งสิ้น 10 โครงการ ซึ่งหลังจากช่วงทดสอบการใช้งาน ทางระบบลำเลียงแสงได้นำปัญหาที่เกิดขึ้นและข้อคิดเห็นที่ได้มาปรับปรุงสถานีทดลองเพิ่มเติมโดยมีการแก้ไขข้อผิดพลาดทั้งในส่วนของการติดตั้งและโปรแกรมสำหรับเก็บข้อมูล จัดทำแนวทางการทำการทดลองอย่างเป็นระบบ และปรับปรุงโปรแกรมสำหรับทำการเก็บข้อมูล รวมถึงแนวทางการทำ sample alignment เพื่อเพิ่มความง่ายในการทำการทดลอง และเปิดได้ให้บริการเทคนิค powder diffraction อย่างเต็มรูปแบบในรอบการให้บริการ 2562-2

ผลการทดลอง powder diffraction ของสารมาตรฐาน NIST LaB6 SRM 660a (ซ้าย) และภาพของสารตัวอย่างที่ใส่ในหลอด Kapton capillary พร้อมสำหรับการทำการทดลอง (ขวา)

แสดงผลการทดลองบางส่วนจากโครงการที่เข้ามาทดสอบการใช้งาน powder diffraction end-station ที่ระบบลำเลียงแสง 1.1W ประกอบด้วย (a) Sr2Fe1-XMXMoO6, (b) lead-free piezoelectric ceramics, (c) Cu5SbO6และ Co2V2O7และ (d) ตัวอย่างดินที่ประกอบด้วย LeonarditeและHumic acid โดยเป็นการวัดโดยใช้รังสีเอ็กซ์พลังงาน 12 keV